คอยล์เย็น หรือ อีวาโปเรเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ซื้อได้ที่ไหน

สำหรับ คอยล์เย็น หรือ ที่เรารู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือ อีวาโปเรเตอร์ (Evaporator)

เป็นส่วนสำคัญที่เราต้องคำนึงถึงเพราะมันทำหน้าที่ให้ความเย็นกับระบบแอร์ในรถของเรา ถ้าคอยล์เย็นคุณภาพดี ก็จะทำให้ทำความเย็นได้ดี และส่วนใหญ่แล้วคอยล์เย็นที่ติดรถมานั้น อายุการใช้งานมักใช้ได้ไม่นาน เพระาก็อย่างที่เราๆรู้กัน เขาต้องลดต้นทุนทุกอย่างให้มากที่สุด เพื่อทำกำไรมากสุด ดังนั้น อายุการใช้งานของคอยล์เย็นที่ติดรถมา หรือ คอยล์เย็นที่ซื้อตามศูนย์ ก็มักจะเป็นคอยล์เย็นที่มาจากประเทศจีน ที่เขาเน้นผลิตจำนวนมากๆ ราคาถูกๆ แล้วก็นำมาขายแพงๆ เช่น เปลี่ยนคอยล์เย็นทีหนึ่ง แค่เปลี่ยนคอยล์เย็นอย่างเดียวก็ปาไป สามพันกว่าแล้ว ซึ่งบางทีตามศูนย์ หรือตามอู่ซ่อมต่างๆก็มักจะบอกว่า ของแท้ครับพี่ ของแท้ แล้วของแท้เนียะมันดูยังไง ถึงจะเรียกว่าของแท้ เพียงแค่มันหน้าตาเหมือน อย่างนั้นหรือ??? เราก็ไม่อาจรู้ได้ ต่อให้ผมไปดูเองก็ยังบอกไม่ได้ เพราะจริงๆแล้ว ก็มีอยู่หลายเจ้าที่ผลิตงานคอยล์เย็น ออกมาขายอยู่ในตลาด ดังนั้นแต่ละยี่ห้อที่ขายกันนั้น ถ้าเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย คุณภาพงานถือว่าใกล้เคียงกันหลายๆยี่ห้อ บางยี่ห้อเป็นสีทองสวยงาม บางยี่ห้อก็ออกสีธรรมชาติ คือสีเงินๆ เขียวๆ นิดนึง ดีกว่าของจากประเทศจีนหลายเท่า ดังนั้นเวลาเลือก เลือกกันให้ดี เพราะจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายเงิน

Evaporator

หน้าตาของตัวคอยล์เย็น ก็ค่อยๆเปลี่ยนไปตามกาลเวลา สำหรับรถที่อายุกลางๆ ก็จะหน้าตาเหมือนด้านบนนี้ ซึ่งก็ยังคงมีอยู่มากมาย ซึ่งช่วงเวลานี้ก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ต้องเปลี่ยน ต้องล้างกันแล้ว เพราะน่าจะใช้งานมันมานานแล้วพอสมควร

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะเลือกคอยล์เย็นไทย สนับสนุนกิจการของเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ของไทยเรานะครับ คุณภาพเราระดับติดตั้งในไลน์ผลิตรถญี่ปุ่นและรถยุโรปมากมาย ดังนั้น คุณภาพไม่ต้องห่วงเลยครับ

Mercedes Benz CLA ใหม่ พร้อมราคา

เมอร์เซเดส เบนซ์ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่  New! Mercedes Benz CLA  ใหม่ อย่างเป็นทางการ มั่นใจ ตอบรับดี ด้วยราคา 2.64  ล้าน บาท

                ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  "บริษัทมีความภูมิใจที่ได้นำรถยนต์ The new CLA-Class ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกในงานดีทรอยด์ มอเตอร์โชว์ที่ ผ่านมา และนำมาเปิดตลาดในประเทศไทยทันที ด้วยรุ่น CLA 250 AMG Sport โดย The new CLA-Class เป็นการพัฒนาไปอีกขั้นของการออกแบบยนตรกรรมที่บ่งบอกถึงแนวคิดการออกแบบใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิม  เจาะกลุ่มยังก์เจเนอเรชั่นที่ชื่นชอบรถในสไตล์สปอร์ตคูเป้สี่ประตู ซึ่งทำให้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ดูมีสีสัน แตกต่างจากเดิมที่เคยเป็นมา
Mercedes Benz CLA
Mercedes Benz CLA
            "การออกแบบที่ล้ำสมัยทำให้รถดูปราดเปรียว  ความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาตร์ที่ดีที่สุด  ประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่ที่สนุก  ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จะทำให้ CLA ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในตลาดประเทศไทย  นอกจากนี้ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ดูเหมาะกับคนรุ่นใหม่ มากขึ้น  โดยเรายังคงเน้นการทำตลาดเชิงรุก ด้วยการเดินหน้าคัดสรรยนตรกรรมใหม่หลากหลายรุ่นเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทให้มีความหลากหลายและน่าสนใจ โดยสามารถตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม"
            สำหรับ  Mercedes Benz CLA  ใหม่ ถือว่าเป็นรถยนต์ที่เข้ามาจำหน่ายรุ่นล่าสุด ที่ได้รับอิทธิพลการออกแบบใหม่ของค่าย Mercedes Benz โดยตัวถังของ CLA จะดีไซน์เป็นส่วนโค้งและส่วนเว้าเข้ากันได้อย่างกลมกลืน ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า พื้นที่ด้านข้าง และกระจังหน้าแบบ diamond grille ทั้งยังออกแบบ ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Cd) มีค่าเท่ากับ 0.22 เท่านั้น
Mercedes Benz CLA
Mercedes Benz CLA
            ด้านเครื่องยนต์ CLA 250 AMG Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 1,991 ซีซี ขุมพลัง 155 กิโลวัตต์/211 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตรที่ 1,200 - 4,000 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก  0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16.13 - 16.39 กม./ลิตร
            สำหรับ  Mercedes Benz CLA  มาพร้อมวางจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว คือ  Mercedes Benz CLA 250 AMG Sport  สงนราคาจำหน่าย 2,640,000  บาท

เรื่องโดย ทีมงาน Sanook! Auto 
ติดตามข่าวสารส่งตรงถึงคุณได้ทาง Facebook

คุยถามปัญหาได้ที่ เว็บบอร์ด...ทางนี้

อันตรายจาก เกียร์ออโต้

ระวังอันตรายจากเกียรต์ออโต้
ที่มา : Forward Mail
อ่านแล้วช่วยกันแชร์ให้เพื่อนๆรับทราบด้วยนะครับ
........................................................

ประสบการณ์จริง จากรถเกียร์ออโต้ อุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด ! 

คงเคยอ่านข่าว รถจอดอยู่แล้วไหลชนเจ้าของบ้าน หรือตกคลองกันบ้าง เรื่องเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้กับผู้ที่ใช้รถยนต์เกียร์ออโต้ทุกคนนะครับ 
 
เหตุเกิดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา นี้เอง 
หลังจากที่ได้นำรถออกจากอู่ตอนบ่าย กับรถ BENZ 300 E เอารถไปเข้าอู่เพื่อดูแลตามปกติ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง. น้ำมันเกียร์เข็คโน่นเช็คนี่ตามเลขที่กิโลตามกำหนด ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเลย แต่วันนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันจนได้ 

เคยได้ยินไหม...เกียร์หลุด!!! 
มันไม่ใช่เกียรต์หลุดออกมา และไม่ใช่เข้าเกียร์ไม่ได้ 
แต่มันหลุดไปอยู่ที่เกียร์ถอย R !!!!!!

อาการเป็นอย่างไรน่ะหรือ? 
คือ...ไม่ว่าคุณจะเข้าเกียร์อะไร ก็ควบคุมรถไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะพลักเกียร์ไปอยู่ที่ P, D, 3 หรือ 2 ก็ตาม
ทุกเกียร์รถจะถูกสั่งให้ถอยหลังทั้งหมด!!!!
 
ยิ่งคุณพยามยามจะเดินหน้า โดยผลักไปที่ D แล้วเหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะถูกเร่งให้ถอยหลังแรงขึ้น 
ยกเว้นคุณจะเหยียบเบรคอยู่อย่างนั้น!!!! 

อย่าหวังพึ่งเบรคมือ 
เพราะมันจะมีประสิทธิภาพเมื่อรถจอด ป้องกันไม่ให้ไหลเท่านั้น 

เย็นวันนั้น หลังเลิกงาน แวะ Shopping ที่ห้างเดอะมอล์ ผ่านจากจุดรับบัตรตรงทางเข้า ไปเล็กน้อยก็เห็นที่มีที่จอดรถว่างอยู่ เป็นทางลาดเล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ) ก็เลยเปิดไฟกระพริบ
 
เปลี่ยนเป็นเกียร์ R เพื่อถอยหลังเข้าที่จอด 
ถอยไปได้ครึ่งคัน เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ 
ก็เปลี่ยนเป็น D เพื่อให้รถเดินหน้าจะได้ตั้งลำถอยใหม่ 
ตอนนี้เองรถไม่ยอมเดินหน้า!!! มันยังคงถอยหลังซะงั้น!!! 

ก็เริ่มแปลกใจ หันมามองหน้ากัน เกิดอะไรขึ้น 
รีบเหยียบเบรค เข้าเกียร์ D ใหม่เหยียบคันเร่งเบาๆ 
รถกลับถอยหลังแรงขึ้นไปอีก ก็เหยียบเบรคอีก 
แต่กำลังของรถมันคอยจะถอยอย่างเดียว 
เครื่อง ดังหึ่ง ๆ จะถอยลูกเดียว!!!!
 
ทีนี้คิดว่าจะทำอย่างไรดี ไม่เคยเจอ ก็เลยให้อีกคนเปิดประตูลงมามองหาว่ามันมีที่กั้นล้อด้านหลังไหม จะได้กั้นรถไว้ได้ เพราะด้านหลังเป็นท่อแก๊ส และท่อน้ำขนาดใหญ่ของห้าง ถ้าถอยไปชน จะเกิดอะไรขึ้น? 

พอลงไปดูเห็นมีที่กั้นค่อยโล่งใจหน่อย ก็เลยตะโกนบอกมีที่กั้น จอดเลยไม่ต้องถอยแล้ว คนขับก็เหยีบเบรค และเลื่อนเกียร์มาที่เกียร์ว่าง N ห่างจากจุดที่กั้นเป็นปูนประมาณ 2 คืบได้ 
แล้วก็ปล่อยเบรค เพื่อจะดับเครื่องจอด 

ทันใดนั้นเองสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ... 
รถกระโดดข้ามไปอยู่บนที่กั้นด้วยความเร็วและแรงมาก
ในชั่ววินาทีเดียว วินาทีเดียวจริงๆ 

ซึ่งคนที่ยืนดูท้ายอยู่ อยู่ห่างจากตัวรถทางด้านข้างไม่ถึงฝ่ามือ ยืนตะลึง แรงของรถ กระแทกท่อแก๊สกับท่อน้ำอย่างแรง กันชนแตกเละ โครมเบ้อเริ่ม สิ่งที่ทำตอนนั้นคือ ตะโกน ดับเครื่อง ดับเครื่อง ดับเครื่อง

หลายคนคงสงสัยแล้วแล้วจากนั้นเป็นอย่างไรต่อ 
ก็ค่อยๆ มองซ้ายมองขวาช่วยกันเข็นรถที่มันคาอยู่บนขอบปูน 
และกำลัง เบียดท่อแก๊สกับท่อน้ำ ออกหนะสิ 
โชคดีมากๆ ท่อเป็นเหล็กหนามาก ไม่อย่างนั้น 
คนที่ดูหลังอยู่ด้านท้าย คงไม่มีโอกาสมาเล่าให้ฟัง คงจะแบนไปกับท่อแก๊สไปแล้ว 

* ทุกคนคงอยากดูรูป แต่ตอนนั้นตกใจลืมนึกไป * 

สิ่งที่อยากจะฝากเตือนทุกคนก็คือ 

1. เมื่อเกิดเหตุควบคุมรถไม่ได้เพราะเกียร์หลุด ต้องดับเครื่องยนต์ทันที ( คำแนะนำของช่าง) เพราะรถที่เกียร์หลุด จะไม่สามารถควบคุมได้เด็ดขาด ยกเว้นหลุดไปเป็นเกียร์ว่าง 

2. เวลาจะถอยหลัง หรือออกรถ ระวังอย่าให้มีคนยืนอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่ เวลาถอยรถ เรามักมีคนไปด้วยช่วยลงไปดู เพราะไม่แน่ใจหรือคอยระวังรถคันอื่น 

3. รถที่พึ่งออกจากอู่ ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีข้อผิดพลาด 

4. สติของคนขับ สำคัญมาก แม้ประสบการณ์หลายสิบปี ก็อาจควบคุมไม่ได้ 

ด้วยความปรารถนาดี เพื่อเป็นประสบการณ์หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
..................................................................

ขอบคุณข้อมูลดีดีจากเพื่อนๆที่ Forward Mail ต่อๆกันมานะครับ
เพราะผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยจริงๆ 

คราวหน้าจะถอยรถคงต้องบอกให้ภรรยาลงไปช่วยดูท้ายให้ซะแล้ว คริ คริ

ระวังอันตรายจากเกียรต์ออโต้

........................................................

ประสบการณ์จริง จากรถเกียร์ออโต้ อุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด !

คงเคยอ่านข่าว รถจอดอยู่แล้วไหลชนเจ้าของบ้าน หรือตกคลองกันบ้าง เรื่องเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้กับผู้ที่ใช้รถยนต์เกียร์ออโต้ทุกคนนะครับ

เหตุเกิดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา นี้เอง
หลังจากที่ได้นำรถออกจากอู่ตอนบ่าย กับรถ BENZ 300 E เอารถไปเข้าอู่เพื่อดูแลตามปกติ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง. น้ำมันเกียร์เข็คโน่นเช็คนี่ตามเลขที่กิโลตามกำหนด ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเลย แต่วันนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันจนได

เคยได้ยินไหม...เกียร์หลุด!!!
มันไม่ใช่เกียรต์หลุดออกมา และไม่ใช่เข้าเกียร์ไม่ได้
แต่มันหลุดไปอยู่ที่เกียร์ถอย R !!!!!!

อาการเป็นอย่างไรน่ะหรือ?
คือ...ไม่ว่าคุณจะเข้าเกียร์อะไร ก็ควบคุมรถไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะพลักเกียร์ไปอยู่ที่ P, D, 3 หรือ 2 ก็ตาม
ทุกเกียร์รถจะถูกสั่งให้ถอยหลังทั้งหมด!!!!

ยิ่งคุณพยามยามจะเดินหน้า โดยผลักไปที่ D แล้วเหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะถูกเร่งให้ถอยหลังแรงขึ้น
ยกเว้นคุณจะเหยียบเบรคอยู่อย่างนั้น!!!!

อย่าหวังพึ่งเบรคมือ
เพราะมันจะมีประสิทธิภาพเมื่อรถจอด ป้องกันไม่ให้ไหลเท่านั้น

เย็นวันนั้น หลังเลิกงาน แวะ Shopping ที่ห้างเดอะมอล์ ผ่านจากจุดรับบัตรตรงทางเข้า ไปเล็กน้อยก็เห็นที่มีที่จอดรถว่างอยู่ เป็นทางลาดเล็กน้อย (เล็กน้อยจริงๆ) ก็เลยเปิดไฟกระพริบ

เปลี่ยนเป็นเกียร์ R เพื่อถอยหลังเข้าที่จอด
ถอยไปได้ครึ่งคัน เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ค่อยตรงเท่าไหร่
ก็เปลี่ยนเป็น D เพื่อให้รถเดินหน้าจะได้ตั้งลำถอยใหม่
ตอนนี้เองรถไม่ยอมเดินหน้า!!! มันยังคงถอยหลังซะงั้น!!!

ก็เริ่มแปลกใจ หันมามองหน้ากัน เกิดอะไรขึ้น
รีบเหยียบเบรค เข้าเกียร์ D ใหม่เหยียบคันเร่งเบาๆ
รถกลับถอยหลังแรงขึ้นไปอีก ก็เหยียบเบรคอีก
แต่กำลังของรถมันคอยจะถอยอย่างเดียว
เครื่อง ดังหึ่ง ๆ จะถอยลูกเดียว!!!!

ทีนี้คิดว่าจะทำอย่างไรดี ไม่เคยเจอ ก็เลยให้อีกคนเปิดประตูลงมามองหาว่ามันมีที่กั้นล้อด้านหลังไหม จะได้กั้นรถไว้ได้ เพราะด้านหลังเป็นท่อแก๊ส และท่อน้ำขนาดใหญ่ของห้าง ถ้าถอยไปชน จะเกิดอะไรขึ้น?

พอลงไปดูเห็นมีที่กั้นค่อยโล่งใจหน่อย ก็เลยตะโกนบอกมีที่กั้น จอดเลยไม่ต้องถอยแล้ว คนขับก็เหยีบเบรค และเลื่อนเกียร์มาที่เกียร์ว่าง N ห่างจากจุดที่กั้นเป็นปูนประมาณ 2 คืบได้
แล้วก็ปล่อยเบรค เพื่อจะดับเครื่องจอด

ทันใดนั้นเองสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ...
รถกระโดดข้ามไปอยู่บนที่กั้นด้วยความเร็วและแรงมาก
ในชั่ววินาทีเดียว วินาทีเดียวจริงๆ

ซึ่งคนที่ยืนดูท้ายอยู่ อยู่ห่างจากตัวรถทางด้านข้างไม่ถึงฝ่ามือ ยืนตะลึง แรงของรถ กระแทกท่อแก๊สกับท่อน้ำอย่างแรง กันชนแตกเละ โครมเบ้อเริ่ม สิ่งที่ทำตอนนั้นคือ ตะโกน ดับเครื่อง ดับเครื่อง ดับเครื่อง

หลายคนคงสงสัยแล้วแล้วจากนั้นเป็นอย่างไรต่อ
ก็ค่อยๆ มองซ้ายมองขวาช่วยกันเข็นรถที่มันคาอยู่บนขอบปูน
และกำลัง เบียดท่อแก๊สกับท่อน้ำ ออกหนะสิ
โชคดีมากๆ ท่อเป็นเหล็กหนามาก ไม่อย่างนั้น
คนที่ดูหลังอยู่ด้านท้าย คงไม่มีโอกาสมาเล่าให้ฟัง คงจะแบนไปกับท่อแก๊สไปแล้ว

* ทุกคนคงอยากดูรูป แต่ตอนนั้นตกใจลืมนึกไป *

สิ่งที่อยากจะฝากเตือนทุกคนก็คื

1. เมื่อเกิดเหตุควบคุมรถไม่ได้เพราะเกียร์ หลุด ต้องดับเครื่องยนต์ทันที ( คำแนะนำของช่าง) เพราะรถที่เกียร์หลุด จะไม่สามารถควบคุมได้เด็ดขาด ยกเว้นหลุดไปเป็นเกียร์ว่าง

2. เวลาจะถอยหลัง หรือออกรถ ระวังอย่าให้มีคนยืนอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังเด็ดขาด เพราะส่วนใหญ่ เวลาถอยรถ เรามักมีคนไปด้วยช่วยลงไปดู เพราะไม่แน่ใจหรือคอยระวังรถคันอื่น

3. รถที่พึ่งออกจากอู่ ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีข้อผิดพลาด

4. สติของคนขับ สำคัญมาก แม้ประสบการณ์หลายสิบปี ก็อาจควบคุมไม่ได้

ด้วยความปรารถนาดี เพื่อเป็นประสบการณ์หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
..................................................................

คราวหน้าจะถอยรถคงต้องบอกให้ภรรยาลงไปช่วยดูท้ายให้ซะแล้ว คริ คริ
 
ขอบคุณข้อมูลดีดีจากเพื่อนๆที่ Forward Mail ต่อๆกันมานะครับ
เพราะผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลยจริงๆ 

5 เหตุผลที่คุณ ควรขับ รถเกียร์อัตโนมัติ

5 เหตุผลที่คุณ ควรขับ รถเกียร์อัตโนมัติ


หากกล่าวถึงรถยนต์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แล้ว เราแทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รถยนต์ ระบบเกียร์อัตโนมัติ ถือว่าเป็นรถยนต์ที่แทบจะเป็นมาตรฐานใหม่ ไม่ว่าใครต่างก็คบหาด้วยความสะดวกสบาย และก้าวหน้าของเทคโนโลยี แต่ก็ยังมีบ้างบางคนที่ไม่ชื่นชอบรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ
                แม้การเลือกซื้อรถอาจจะเป็นความต้องการของแต่ละคนที่ มองถึงความต้องการของตัวเอง แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่ไม่แตกต่างกันมากมายนัก บางทีอาจจะต้องมองถึงอะไรที่มากกว่า และ บางทีรถเกียร์อัตโนมัติ อาจจะถูกกว่าก็ได้

เกียร์อัตโนมัติ

1.  มันขับง่ายกว่า  ไม่ ว่าใครก็คงต้องรู้ดีในเรื่องนี้ว่ารถเกียร์อัตโนมัติ ขับขี่ง่ายกว่า แน่นอนว่า การเดินหน้าถอยหลัง ที่ระบบเกียร์จะปรับเปลี่ยนตามความต้องการ ย่อมทำให้สะดวกมากขึ้น คุณจะเหนื่อยล้าต่อการขับขี่น้อยลงอย่างไม่ต้องสงสัย แล้วทำไม ถ้าราคาไม่ต่างกันมาก ลองเจียดเงิน ซื้อรถเกียร์อัตโนมัติ ดูแล้วจะรู้ว่าคุ้มค่า

2.คุณแก่ลงทุกวัน ก่อนตัดสินใจ ระหว่างเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ ลองคิดง่ายๆว่า ทุกวันคุณมีอายุมากขึ้น คุณแก่ลงทุกวันแน่นอน เราอาจจะปฏิเสธไม่ได้ว่า เกียร์อัตโนมัติ จะเป็นผู้ช่วยที่ดีสำหรับคุณ ในยามขับขี่ ทำให้แม้คุณจะมีอายุมากขึ้น แต่ก็ยังสามารถขับได้อย่างวัยรุ่น  และยังตอบโจทย์เรื่องของความปลอดภัยมากขึ้นในยามที่คุณตอบสนองช้าลงเมื่อมี อายุมากขึ้น

3.เทคโนโลยีที่ดีกว่า เราไม่ปฏิเสธว่า ระบบเกียร์ธรรมดาให้ความเร้าใจในการขับขี่ แต่ระบบเกียร์อัตโนมัติ มันคือโลกใหม่แห่งการขับขี่เช่นกัน ตลอดช่วงหลาย  10  ปีที่ผ่านมา รถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ถูกพัฒนาความสามารถให้ทัดเทียมเท่าเกียร์ธรรมดา และหลายครั้งที่เราพบว่ามันไปไกลกว่านั้น

New Engine Technology
                ถ้าย้อนกลับไปจุดตั้งต้นระบบเกียร์ธรรมดา  3  ขั้น ตอนที่ยังใช้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน จากแนวคิดในการพัฒนาระบบเกียร์นั้นคือ ติดเครื่องยนต์ เลือกทิศทาง และเร่งไปข้างหน้า ยังถูกใช้จนปัจจุบัน แต่มันก็มีฟังชั่นใหม่ที่ทำได้ดีกว่าเช่น เลือกตำแหน่งเกียร์ได้คล้ายเกียร์ธรรมดา ไปจนถึง ระบบเกียร์ที่ตอบโจทย์เรื่องความประหยัดได้ขึ้น อย่างระบบเกียร์  CVT  ซึ่งเริ่มเป็นที่ยอมรับแล้วว่า มันสามารถทำได้ดีกว่าเกียร์ธรรมดา โดยเฉพาะในเรื่องของความประหยัด ดังนั้น จะใช้รถเกียร์ธรรมดาทำไม ในเมื่อทุกวันนี้เกียร์อัตโนมัติดีกว่า อย่างเห็นๆ
4.ออพชั่นดีๆ มักอยู่ในเกียร์อัตโนมัติ ทุก วันนี้เราปฏิเสธไม่ได้รถส่วนใหญ่ทำมาในระบบเกียร์อัตโนมัติ และมันก็ทำให้ออพชั่นเด่นๆที่มีอยู่ในรถรุ่นนั้นๆ มักจะไปโผล่ ในรถที่เป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งก็ไม่น่าแปลก เพราะ บริษัทรถต้องเพิ่มมูลค่าให้รถรุ่นนั้นๆ มากขึ้น เราจึงพบว่า ออพชั่นๆ ดี ไม่ได้มีมาให้ในรุ่นเกียร์ธรรมดา
5.มันเป็นออพชั่นหรูในตลาดยุโรป ที่จริงตลาดรถยนต์ ไม่ได้แบ่งแยกความหรูที่เกียร์ แต่ในตลาดยุโรป ผู้คนมีความคิดว่า ถ้าคุณจ่ายไม่ไหวคุณก็ใช้เกียร์ธรรมดา ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากรถเช่าที่เกียร์อัตโนมัติ จะมีค่าเช่าแพงกว่าเกียร์ธรรมดา ถึง 2 เท่า และถ้ามองรถยุโรปใหม่ๆ คุณจะพบว่ามันแทบไม่มีออพชั่นเกียร์ธรรมดาให้เลือก เว้นแต่ในรุ่นล่างสุด ซึ่งมักจะมีเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น

แน่นอนว่า เกียร์อัตโนมัติ อาจจะเป็นคำตอบที่เป็นมาตรฐานไปแล้ว สำหรับการขับรถยนต์ในยุคใหม่ที่มันง่าย และสบายขึ้น แต่ที่คุณไม่ควรลืมคือ เมื่อคุณสบายขึ้น ก็ต้องมีสมาธิต่อการขับขี่มากขึ้นเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองด้วย

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจ จาก web sanook