Showing posts with label วิธีขับรถตอนฝนตก. Show all posts
Showing posts with label วิธีขับรถตอนฝนตก. Show all posts

วิธีขับรถตอนน้ำท่วมและช่วงฝนตก




ช่วงนี้ฝนตกหนักทุกวัน ทำให้มีน้ำท่วมขัง และน้ำท่วมตามจังหวัดต่างๆ ทำให้การขับรถนั้นยากลำบากยิ่งขึ้น เรามาดูวิธีขับรถตอนน้ำท่วมกันว่ามีข้อปฎิบัติอย่างไรมั่ง

- ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด ในขณะขับรถลุยน้ำลึก หรือแม้จะน้ำตื้นก็ตาม เพราะ สาเหตุที่รถดับ ส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดแอร์แล้วขับลุยน้ำ เพราะว่า เมื่อเปิดแอร์ พัดลมจะทำงาน ทำให้ใบพัดจะพัดให้น้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง แล้วทำให้เครื่องดับ
-ไม่ควรเร่งเครื่องให้รอบสูงๆ เพราะจะทำให้รถมีความร้อนสูงขึ้น เมื่อเครื่องมีความร้อนสูงขึ้น ใบพัดระบายความร้อนก็จะทำงาน และสิ่งที่จะตามมาก็เหมือนกับข้อ 1 ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเข้าท่อไอเสีย เพราะต่อให้น้ำจะท่วมท่อไอเสีย แล้วสตาร์ทรถอยู่ที่รอบเดินเบา แรงดันที่ออกมาเพียงพอที่จะดันน้ำออกมาอย่างสบายๆ ต่อให้จอดรถทิ้งไว้จนน้ำท่วมท่อไอเสียก็ตาม เมื่อสตาร์ทรถก็ยังติดแน่นอน สำหรับเครื่องหัวฉีด
-ควรใช้เกียร์ต่ำ สำหรับเกียร์ธรรมดา ก็ใช้ประมาณเกียร์ 2 ควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ อย่าหยุดอย่าเร่งความเร็วขึ้น
-ควรลดความเร็วลง เมื่อกำลังขับรถสวนกับอีกคันที่กำลังขับมา เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นคลื่นชนคลื่น ซึ่งน้ำที่ปะทะระหว่างรถของเราและรถที่วิ่งสวนมา มันก็อาจทำให้น้ำกระเด็นไปทำอันตรายต่ออุปกรณ์ภายในได้

ขับรถตอนน้ำท่วม

และเมื่อเวลาเจอฝนตกหนักๆ

ช่วงนี้มีฝนตก ทำให้พื้นผิวการจราจรนั้นติดขัดและพื้นผิวถนนก็ลื่น ทำให้รถนั้นแล่นหรือเคลื่อนตัวได้ช้าลง เราควรขับรถด้วยความระมัดระวัง และควรเช็ครถก่อนออกจากบ้านว่ารถมีสภาพที่ใช้งานได้ดีหรือไม่

1. ก่อนออกจากบ้าน ตรวจดูสภาพความพร้อมของที่ปัดน้ำฝน
2. ตรวจดูไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยวไฟกะพริบ ไฟถอยหลังว่าใช้การได้ดีหรือไม่ ถ้าไฟด้านไหนไม่ติดก็ต้องไปเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยน่ะค่ะ
3. ตรวจดูแบตเตอรี่สม่ำเสมอ โดยการเติมน้ำกลั่นที่หม้อแบต สามารถซื้อได้ที่ปั้มน้ำมันหรืออู่ซ่อมรถค่ะ
4. ดูสภาพยางรถยนต์ทั้ง 4 เส้นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานไม่อ่อน และแข็งเกินไป และยางทั้ง 4 ต้องอยู่ในสภาพที่ดีน่ะค่ะ
5. ตรวจสอบเบรคด้วยการเหยียบย้ำ ๆ ดู ว่าเบรคสึก หรือตื้นไป และให้เหยียบย้ำ ๆ มากขึ้นเมื่อพ้นสภาพถนนเปียก เป็นการไล่น้ำ ออกจากเบรค และให้เกิดความร้อน และมีประสิทธิภาพในการใช้งานต่อไป
6. ควรขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่เร็วเกินไปเนื่องจากเครื่องยนต์ เกิดจากความร้อนเมื่อถูกความเย็น จะทำให้เกิดความร้อนขึ้น มีผลต่อกระแสไฟฟ้า และลัดวงจรเป็นเหตุ ให้เครื่องยนต์ดับได้
7. หากรถดับให้เปิดฝากระโปรง หาผ้าแห้ง  ซับบริเวณเครื่องยนต์ ถ้ามีสารเคมี เพื่อฉีดพ่นเครื่องยนต์ ไล่ความชื้น ได้ด้วยก็จะดี
8. หากเกิดฝ้าบริเวณกระจกหน้า ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดเป็นระยะ ๆ เพื่อทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่
9. หากหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ ถนนมีน้ำท่วมขัง ไม่ได้ให้ปิดเครื่องปรับอากาศชั่วคราวนะคะ เพราะน้ำอาจจะเข้าไปที่พัดลม เครื่องปรับอากาศ ทำให้เสียได้ และพัดลมหม้อน้ำ จะตีเอาน้ำที่เข้ารถเป็นละอองปกคลุม ในห้องเครื่องเป็นสาเหตุให้รถดับได้