Showing posts with label toyota vios. Show all posts
Showing posts with label toyota vios. Show all posts

Honda City กับ Toyota Vios ยี่ห้อไหนดีกว่ากัน คันไหนดีกว่า อะไรดีกว่า ฮอนด้า ซิตี้ กับ โตโยต้า วีออส

Honda City กับ Toyota Vios ยี่ห้อไหนดีกว่ากัน คันไหนดีกว่า อะไรดีกว่า

 10 ความคิดเห็นจากหลายๆท่าน ที่เป็นผู้ใช้ทั้ง honda city และ toyota vios ลองอ่านๆ แล้วก็วิเคราะห์กันดูนะครับ ว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากัน ระหว่าง Honda City กับ Toyota Vios

Honda City / ฮอนด้า ซิตี้ Toyota Vios / โตโยต้า วีออส
Honda City / ฮอนด้า ซิตี้ Toyota Vios / โตโยต้า วีออส


  1. ผมว่าคุณไปดูอุปกรณ์การประกอบ. เสียงการปิดประตูว่าแน่นหนักหรือไม่, ลองขับทั้ง 2 ยี่ห้อเองว่าชอบการขับและชอบลักษณะของรถแบบไหนแล้วถูกใจจะดีกว่าครับโดยความ เห็นของผมแล้วดีทั้ง 2 รุ่นแแหละแต่ขึ้นอยู่กับความชอบของรูปทรงและมุมมองการขับมากกว่า ฟังคนอื่นมากเดี๋ยวตัดสินใจไม่ได้นะครับเพราะส่วนมากเห็นว่าคนที่ชอบยี่ห้อ ไม่ชอบยี่ห้อนึงก็จะเชียร์รุ่นที่ชอบว่ารุ่นที่ไม่ชอบ เพราะคุณเป็นคนซื้อคุณต้องลองขับแล้วเลือกว่าถูกใจการขับของรุ่นไหนที่ศูนย์ เค้ามีรถลองขับอยู่แล้ว (ต้องลองทั้ง 2 รุ่นที่ดูนะครับอย่าเพิ่งรีบตัดสินใจจะได้รู้ว่าการขับทั้ง 2 รุ่นเป็นยังไง) ส่วนความเห็นประกอบควรทราบคือสิ่งที่ได้มาของแต่ละรุ่นครับทั้งสมรรถนะของ แถมและค่าใช้จ่ายและที่ลืมไม่ได้คือการบริการของศูนย์รถและยี่ห้อรถครับ ขอให้ได้รถตามความชอบจริงๆครับ ...  
  2. ผมขับซิตี้ครับ แต่มันมีปันหาเรื่องโครงรถบังทัศนวิสัย
    เสียงดังจากภายนอกอันนี้ไม่ทราบรุ่นใหม่แก้ไขรึยัง(ของผม 2010)
    โช๊คแข็ง หลุมนิดเดียวดุ้งอย่างกับตกท่อระบายน้ำ
    แต่ที่ใช้อยู่ทุกวันเพราะไม่มีปัญญซื้อใหม่ 5555+++
    ส่วนวิออสขับของแฟนอยู่บ่อยๆ ขับสบายมาก นุ่มดีครับ
    ติด CNG ก้ได้(ซิตี้ระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่าเลยได้แค่ LPG)
    แต่ก็ต้องลองครับใช้เองต้องเลือกเองครับ
  3. new city ผมไม่เคยขับ แต่ผมใช้วีออสตัวปี2008อยู่3ปี ช่วงล่างนิ่มดี แต่เวลาเข้าโค้งไม่ค่อยมันใจเท่าไหร่ผมขับเส้นเชียงราย-เชียงใหม่เคยหลุดลง ข้างทางไปหนนึงเลี้ยวโค้งไม่ค่อยดี  ส่วนเรื่องเครื่องทนมากๆครับ ผมเอาไปติดแก๊สตอนสองหมื่นโลขับมาแสนกว่าโล เจียวาวล์ไปครั้งเดียว ผมเป็นคนขับรถเร็ว140-160 ต่างจังหวัด ตอนนี้มาขับnew jazz วิ่งมาเกือบห้าหมื่นโลแล้วติดแก๊ส lpgตั้งแต่พันโล ยังไม่มีปัญหาอะไร ช่วงล่างดีกว่าวีออสไม่โยนวิ่งเร็วนิ่งกว่า แต่จะเด่งกว่า
  4. เคยใช้วีออสมาสี่ปี โอเคประหยัดน้ำมัน เครื่องนิ่มใช้ได้
    แต่พอมาลองขับซิตี้รุ่นปี12 ก็นิ่มดีไม่แพ้กัน โครงสร้างของ วีออส ไม่ว่าประตูหรือกระจก ง็อกแง็กไปหน่อย...รูปร่างเปลี่ยนล่าสุดก็ดูไม่เปลี่ยนไป
    ส่วนซิตี้ รูปร่างสวยดีโฉมใหม่ยิ่งดี ไฟหน้าแผงภายในก็ดูดี ถ้ายิ่งใส่แม็กซ์โหลดนิดเจ็งมากอ่ะ...
  5. อย่าไปเอาวีออสครับ ห่วยแตก
    ได้ยินคนเค้าด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะไฟตัดหมอกท้ายมันแสบตา
    เอ๊ะ!!  รึว่า . . . คุณคุณขับรถตามเขา เคยเช็คไฟหน้ารถตัวเองเปล่า
  6. สิงที่ต้องควรคำนึงถึง
    1.ค่าซ่อมบำรุ่งของทั้งสองยี่ห้อต่างกันประมาณ 15%
    2.ราคาขายต่อ
    3.ราคาอะไหล่
    4.ของแถม ประกันภัยและชุดแต่ง
    สิงเหล่านี้คุณควรจะต้องคำนึ่งถึงอันดับแรกๆค่ะก้อลองศึกษาดูว่าชอบอย่างไรแบบไหนถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาก้อเลือกตามใจชอบเลยค่ะ
  7. ไม่อยากแนะนำนะ..แล้วแต่ตัดสินใจ  ที่บ้านใช้โตโยต้า 2 คัน วีออดกับอาร์ทิส  เวลารถติดไฟแดงและเป็นไฟเขียว  ขอบอกมันมาก เร็ว..และแรงไปก่อน City อีก  ข้อที่ 1 รถตลาดซื้อง่ายขายคล่อง ข้อที่ 2 อะไหล่หาง่าย ราคาซื้่อขายไม่ตก  แต่ก่อนใช้ ฮอนด้า แล้วซ่อมบ่อย ช่วงล่างไม่ดี มีปัญหาเครื่องบ่อย  รูปลักษณ์สวย ทันสมัย  ราคาต่างกันนิดหน้อยเอง
  8. วีออสนุ่มดีจริง ขายต่อง่ายจริง

    City แต่งแล้วสวย เข้ม ช่วงล่างแข็งกว่าวีออสนิดหน่อยแต่เข้าศูนย์แล้ว
    ค่าบริการถูกกว่าน้องโตแน่นอน การขับทางไกลเข้าโค้งเกาะถนนดีกว่า
    มีเสียงลมเข้ารถเป็นธรรมดา

    อยู่ที่นิสัยการขับของเรานะคะว่าเราชอบขับแบบไหน
    นุ่มย้วยไปเรื่อยๆ ก็วีออส

    ปราดเปรียว แข็งขึ้นมานิดก็ City
  9. ผมคิดว่าวีออสดีกว่า เพราะตอนนี้ผมใช้อยู่รุ่น 50ปี ช่วงล่างดี แรง และประหยัดน้ำมัน ออกตัวดี ราคาก็อยู่ในระดับกลางๆ ส่วนเรื่องการขายต่อก็ง่าย
    ติดแก๊สแล้ววิ่งดี เขาทำเครื่องมาเหมาะสมกับทั้ง 2 ระบบ

    ส่วน ซิตี้ เป็นรถที่อะไหล่แพง ราคารถก็แพง รวมๆทุกอย่างแพงหมด ยกเว้นราคาขายต่อที่ถูก เพราะไม่เป็นที่ต้องการเท่าไหร่ ติดแก๊สแล้วเวลาวิ่งก็ไม่นิ่งมักมีปัญหา แถมกินน้ำมันด้วย มีดีตรงที่สวยเฉยๆ

    สุดท้ายก็แล้วแต่คนชอบครับ...
  10. ใช้วีออสมา5-6ปีแล้ว ติดตั้งlpgด้วยไม่เคยมีปัญหา ขับสนุก เกาะถนนดี นุ่มสบาย
    ซิตี้เคยใช้มา2ปี กินน้ำมัน ขับ110-120 ตูดแกว่ง การทรงตัวไม่ค่อยดี แข็งๆ

    ส่วนตัวชอบวีออสค่ะ เพราะใช้มายังไม่เคยมีปัญหาจุกจิกกวนใจค่ะ

ใหม่ โตโยต้า วีออส เปิดตัวในงาน Motor Show 2013

โตโยต้า วีออส พร้อมขายแล้วอย่างเป็นทางการ ไทยประเดิมชาติแรกในโลก ยืนยันเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด พร้อมโชว์ในมอเตอร์โชว์

นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
กล่าวเปิดเผยว่า โตโยต้า วีออส ถือเป็นรถยนต์นั่งรุ่นที่สำคัญรุ่นหนึ่งของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย โดยครั้งแรกใช้ชื่อว่า Soluna เป็นรถที่ร่วมพัฒนาระหว่างวิศวกรชาวไทยและชาวญี่ปุ่น

NEW TOYOTA VIOS 2013


สำหรับโตโยต้า วีออส รุ่นใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาให้เป็นสุดยอดยนตกรรมคุณภาพระดับโลก และเราเชื่อว่า วีออส ใหม่ จะช่วยเพิ่มและกระตุ้นยอดขายของโตโยต้าในปีนี้

สำหรับโตโยต้า วีออส ใหม่ ได้รับการพัฒนามิติตัวถังให้ยาวขึ้น 4,410 ม.ม. กว้าง 1,700 ม,ม, และสูง 1,745 ม.ม. มาพร้อมฐานล้อ 2,550 ม.ม. ให้ความโดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ พร้อมล้ออัลลอยเริ่มต้นที่ขนาด 15 นิ้ว

ส่วนภายในห้องโดยสาร ได้มีการปรับโดนสะท้อนความโฉบเฉี่ยวอย่างมีสไตล์และยังพัฒนาให้มีความกว้างขวาง มีภายในให้เลือกทั้งสีเบจและสีดำ ตามแต่ละรุ่น พร้อมไฟแสดงข้อมูลการขับขี่ Eco สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ รวมถึงปรับการออกแบบเบาะใหม่ เพื่อให้ตอบสนองต่อพื้นที่การใช้งานมากขึ้น


ในด้านเครื่องยนต์ โตโยต้า วีออส ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FE โดยยังคงมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และ 5 สปีด ตอบโจทย์เรื่องการขับขี่
โตโยต้า วีออส ใหม่ มี 7 สีให้เลือก รวม 3 สีใหม่ ได้แก่ สีแดง Red Mica Metallic, สีน้ำตาล Quartz Brown Metallic และ สีทอง Silky Beige Metallic

โตโยต้า วีออส ใหม่ มีทั้งหมด 6 รุ่น ราคาจำหน่าย คือ
Toyota Vios 1.5S A/T  734,000 บาท
Toyota Vios 1.5G A/T 699,000 บาท
Toyota Vios 1.5E A/T 649,000 บาท
Toyota Vios 1.5E M/T 614,000 บาท
Toyota Vios 1.5J A/T 589,000 บาท
Toyota Vios 1.5J M/T 559,000 บาท


สีของรถ new vios 2013 หรือ All new vios พร้อมราคาในแต่ละรุ่นย่อย

Toyota มอบสิทธิ ในการเลือกเป็นเจ้าของ All New VIOS รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยตัวเลือก 7 สี ที่มาพร้อมกับ  3 สีใหม่ ให้คุณโฉบเฉี่ยว ไม่เหมือนใคร


เลือกสีของ All new Vios ได้ตามตัวอย่างด้านล่างนี้


Red-mica-Metallic

- สีแดง..Red Mica Metallic ใหม่


Quartz-Brown-Metallic

- สีน้ำตาล..Quartz Brown Metallic ใหม่


Silky Beige Metallic

- สีทอง....




ภายใน…

สปอร์ตหรู สะท้อนความโฉบเฉี่ยวมีสไตล์  กว้างขวาง สะดวกสบายทุกการใช้งาน
- แผงคอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ต เติมเต็มอารมณ์สปอร์ตหรูด้วยแถบตกแต่งสีดำเปียโนแบล็ค ขึ้นลายหนังเย็บรอบคัน (ในรุ่น S Grade)
- ห้องโดยสารภายในโทนสีดำสปอร์ตหรู (ในรุ่น S และ J Grade) และสีไอวอรี่ หรูหราเหนือระดับ (ในรุ่น G และ E Grade)
- หัวเกียร์หุ้มหนัง พร้อมฐานเกียร์เมทัลลิก กระชับทุกการควบคุม เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ (ในรุ่น S และ G Grade)
- พวงมาลัยหุ้มหนังสไตล์สปอร์ตพร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียง เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยทุกเส้นทาง (ในรุ่น S และ G Grade)
- ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) สตาร์ทเครื่องยนต์ เพียงปลายนิ้วสัมผัส (ในรุ่น S Grade)
- มาตรวัดดีไซน์สปอร์ต ล้ำสไตล์ด้วยดีไซน์ใหม่โดดเด่นทุกมุมมอง (ในรุ่น S Grade)
- จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi information Display) แสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขับขี่ อาทิ ระยะทางรวม อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย ระยะที่ขับได้จากน้ำมันที่เหลืออยู่ และความเร็วเฉลี่ยเป็นต้น (ในรุ่น S และ G Grade)
- ไฟแสดงข้อมูลการขับขี่ ECO แสดงผลเมื่อขับขี่ในระดับที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(เฉพาะในรุ่นเกียร์ A/T)
- ชุดเครื่องเสียงดีไซน์ใหม่ รองรับ CD, MP3 และ WMA 1แผ่น
- ช่องเสียบ USB & AUX ตอบรับความบันเทิงได้หลากหลาย เพิ่มความสุนทรีย์ตลอดการเดินทาง
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมจอแสดงผลแบบ LCD ปรับระดับอุณหภูมิอย่างแม่นยำ กระจาย  ความเย็นได้ทั่วห้องโดยสาร (ในรุ่น S และ G Grade)
- กระจกไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam-Protection ป้องกันการหนีบด้านคนขับเพิ่มความปลอดภัย
- เบาะนั่งทรงสปอร์ต โอบกระชับ รองรับทุกสรีระของผู้นั่ง (ในรุ่น S Grade)
- กระจกบังลมหน้าแบบ Acoustic Glass ช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่
- ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า สะดวกสบายแม้ในที่มืด
- ที่เก็บสัมภาระอเนกประสงค์มากมาย ช่องเก็บของด้านฝั่งคนขับ / ช่องเก็บของด้านหน้า / ที่วางแก้วคอนโซลด้านหน้า / ที่พักแขนพร้อมที่วางแก้ว และช่องเก็บของอเนกประสงค์คอนโซลกลาง
- พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ เพิ่มความสบายให้แก่ผู้โดยสารตอนหลังตลอดการเดินทาง
- ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ ดีไซน์ใหม่ให้กว้างและลึกขึ้นเพื่อบรรทุกสัมภาระได้มากกว่าเดิม
- ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry สะดวกสบายสูงสุด ด้วยระบบควบคุมการล็อค-ปลดล็อคประตู และที่เก็บสัมภาระท้ายรถ (ในรุ่น S Grade)

สมรรถนะเหนือชั้น ควบคุมทุกการขับเคลื่อนได้อย่างแม่นยำ
- ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) ด้วยการดีไซน์หลังคาแบบ Catamaran ช่วยลดแรงปะทะของลม พร้อมทั้งฟินที่ถูกติดตั้งบริเวณกระจกมองข้างและไฟท้าย ส่งผลให้อัตราประหยัดน้ำมันและการทรงตัวดีขึ้น
- พลังขับเคลื่อนที่ลงตัว จากพลังของเครื่องยนต์ระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ด้วยระบบเปิด-ปิด วาล์วไอดี ที่สอดคล้องกับทุกจังหวะของการขับขี่ เครื่องยนต์ตอบสนองทันใจและประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม



เครื่องยนต์ 1NZ-FE DOHC 16 วาล์ว VVT-i

ความจุกระบอกสูบ          1,497 ซีซี
แรงม้าสูงสุด                     80 กิโลวัตต์ (109ps) / 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด                    141 นิวตัน-เมตร / 4,200 รอบต่อนาที
มาตรฐานไอเสีย              ยูโร 4



ระบบช่วงล่างที่นุ่มนวลและมั่นคง ควบคุมได้ดั่งใจ


ให้ทุกการเดินทางราบรื่น นุ่มนวล ด้วยระบบกันสะเทือนหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบ ทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง ให้การทรงตัวที่มีประสิทธิภาพ
- พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าโดยปรับเปลี่ยนน้ำหนักของพวงมาลัยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับทุกความเร็วควบคุมง่ายและแม่นยำในทุกสภาพการขับขี่
- เกียร์อัตโนมัติ Super ECT อีกขั้นของเทคโนโลยีล้ำหน้า ที่ทำให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างนุ่มนวลด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด แบบขั้นบันได (Gate type)

ระบบความปลอดภัยแบบป้องกัน
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหันหรือเบรกบนถนนลื่น
- ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้อให้ทำงานได้อย่างสมดุล เพื่อป้องกันอาการท้ายปัด และช่วยควบคุมรถได้ดีแม้เบรกในขณะเข้าโค้ง
- ระบบเสริมแรงเบรก (BA) จะช่วยเพิ่มแรงเบรกมากขึ้น ในกรณีเบรกกระทันหัน เพื่อให้หยุดรถได้ในระยะที่สั้นกว่า
- ดิสก์เบรก 4 ล้อ หยุดรถอย่างมั่นใจมากขึ้น ด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อนสำหรับคู่หน้า ช่วยป้องกันความร้อนสะสม ขณะเบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน (ในรุ่น S และ G Grade)
- กุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้หากรหัสของกุญแจและเครื่องยนต์ไม่ตรงกัน
- ระบบป้องกันการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System) ส่งสัญญาณเสียงเตือนภัย เมื่อมีการบุกรุก (ในรุ่น S, G, E Grade)
ระบบความปลอดภัยแบบปกป้อง
- โครงสร้างนิรภัย GOA ที่ให้ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทกจากการชน
- การออกแบบเพื่อลดแรงกระแทกศีรษะด้านข้าง ออกแบบเพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่ศีรษะของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเมื่อเกิดการชน
- ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า  SRS ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยลดการบาดเจ็บของ
ศีรษะและหน้าอกจากแรงปะทะซึ่งเกิดจากการชนจากด้านหน้า
- เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening) ติดตั้งที่เบาะนั่งด้านหน้า เพื่อลดการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอ เมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ ช่วยรั้งร่างกายผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แนบกับเบาะเมื่อเกิดการชนและลดการบาดเจ็บจากการรัดดึง ของระบบเข็มขัดนิรภัย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.toyota.co.th




The country's most popular budget-priced saloon gets a completely redesigned exterior and interior with design cues reflecting those used in other body derivatives made available in other markets such as the Yaris hatchback and Verso mini-MPV.
Outstanding details include the more stylish lights, grille, bumpers and C-pillars, while the interior has been revamped with a new dashboard, instrument panel and steering wheel.
Although the fourth-generation Vios sits on the same 2,550mm wheelbase and 1,700mm width as before, it is 90mm longer (at 4,410mm) and 10mm (at 1,475mm) taller than before.
According to Toyota Motor Thailand, the cabin and boot are slighter bigger than ever, thanks to these marginal increases in body dimensions.
In spite of the Vios entering a new generation, the mechanical bits are carried over. They include a front strut suspension and rear torsion beam.
The 109hp/141Nm 1.5-litre petrol engine - codenamed 1NZ-FE and used since the second-generation Vios introduced in 2002 - is the same, as well as the four-speed automatic and five-speed manual transmission.
The Chinese market gets the more advanced 1ZR-FE featuring double variable valve-timing and higher outputs of 116hp and 150Nm.
Prices of the new Vios have risen marginally depending in the level of specification. The cheapest J version kicks out at 559,000 baht for the manual and 589,000 baht for the automatic, while the E grade rises to 591,000 baht and 649,000 baht respectively.
The G and S trims - which net dual airbags and brake assist - cost 699,000 and 734,000 baht accordingly.
Toyota also aims to export 5,000 units of the new Vios this year to over 80 countries around the world, with the focus being put in Asean.