ทุกวันนี้มี ร้านหม้อน้ำ มากมายกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งก็มีทั้งที่มีฝีมือในการ ซ่อมหม้อน้ำ ที่ดี และ เลวร้ายสุดๆ
วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการดูร้านซ่อมหม้อน้ำ หรือตัว ช่าง ซ่อมหม้อน้ำเอง
- อย่างแรกเริ่มที่ร้านซ่อมหม้อน้ำกันก่อนเลย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นลักษณะ ตึกแถว หนึ่ง ถึง สองห้อง แล้วแต่ ทำเล และทุนในการเปิดร้าน ถ้าสังเกตุดีๆ มองเข้าไปในร้าน ถ้าดูสะอาดๆ (เว้อ) ก็คงจะไม่ได้ซ่อมหม้อน้ำเอง เป็นแน่ แต่ก็ไม่ใช่รกจนไม่มีทางเดินนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วร้านหม้อน้ำ นั้น จะคล้ายๆกันหมด คือ ต้องทำงานกับ น้ำ น้ำกรด ตะกั่ว ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้ร้านดูไม่สะอาดสักเท่าไหร่
- ดูว่ามีปริมาณหม้อน้ำวางอยู่ในร้านเยอะมั้ย เพราะถ้าเป็นร้านที่ฝึมือดีๆ คนเอารถมาให้ซ่อมเยอะๆ ก็จะมีหม้อน้ำวางเรียงกันเป็นแถวๆ อยู่บนชั้นบ้าง วางตามพื้นบ้าง พิงฝาผนังบ้าง ทั้งที่เป็นรังผึ้งหม้อน้ำ เก่าและรังผึ้งหม้อน้ำใหม่
- มาถึงตัวช่าง ส่วนใหญ่แล้วช่างหม้อน้ำขั้นเทพทั้งหลายก็จะแต่งตัว ดูยังไงก็ช่างหม้อน้ำครับ เป็นเอกลักษณ์ ถึงไม่ได้หล่อ แต่เทพจริง ลากรองเท้าแตะทุกคน ไม่เชื่อผมลองสังเกตุดูได้ ไม่มีการใส่รองเท้าผ้าใบกันครับ ไม่กลัวร้อน ยิ่งถ้าพวกชำนาญการมากๆ ถุงมือก็ไม่ต้องครับ ทำจนไม่รู้จักคำว่าร้อนแล้วครับ
- มาถึงยี่ห้อหม้อน้ำ ซึ่งก็มีหลากหลายยี่ห้อ ก็แล้วแต่ว่าแต่ละร้านหม้อน้ำนั้นๆ จะนำหม้อน้ำยี่ห้อไหนมาขาย ส่วนทางร้านซ่อมหม้อน้ำของร้านที่ผมรู้จักนั้น จะใช้รังผึ้งของหม้อน้ำยี่ห้อ CPS เป็นหลัก ซึ่งเป็นลักษณะรังผึ้งหม้อน้ำแบบพิเศษกว่าคนอื่นเขา เพราะเคลือบดีบุกทั้งในท่อน้ำและนอกท่อ ซึ่งทำให้อายุการใช้งานของหม้อน้ำนั้นยาวนานขึ้น แข็งแรง ทนการกัดกร่อนได้อย่างดีเยี่ยม ผมชอบ ส่วนยี่ห้ออื่นๆก็พอใช้ได้ ก็จะราคาย่อมลงมาหน่อยตามคุณภาพของหม้อน้ำครับ
- ส่วนเรื่องราคาหม้อน้ำนั้น ก็คงแล้วแต่ว่าจะเจอช่างหม้อน้ำขาโหดประจำถิ่นหรือไม่ครับ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็หลักพันครับ สำหรับรถยนต์อย่างเราๆ ถ้าไม่ใช่พวกรถใหญ่ ยังไม่ก็ไม่มีการแตะ 5 หลักแน่นอน ส่วนเพื่อนๆพี่ๆ ไม่เคยลองมัวแต่เข้าศูนย์แล้วก็โดนฟันใบเป็นหมื่น ผมก็แนะนำให้มาลองกันได้ครับ ร้านยิ่งใหญ่ยิ่งดีครับ เพราะ อุปกรณ์ต่างๆจะพร้อมและอีกอย่าง ร้านใหญ่ได้แสดงว่าผลงานต้องดี ถึงขยายร้านจนใหญ่โตได้ครับ
ท้ายนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความด้านบนนี้จะช่วยให้ท่านได้มีโอกาสเลือกร้านที่ดีที่สุดสำหรับ ท่านทั้งหลายแล้วกันนะครับ